26. การเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร
ในสหรัฐอเมริกา คนส่วนใหญ่นิยมซื้อขายโดยจ่ายผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือเช็ค มากกว่าการซื้อขายโดยใช้เงินสด การมีบัญชีเงินฝากกับธนาคารจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อจะให้ได้มาซึ่งบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือเช็ค ดังนั้น หลังจากที่เดินทางถึงสหรัฐฯ นักเรียนทุกคนจึงต้องรีบเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารในโอกาสแรกที่สามารถทำได้ นอกจากเพื่อความสะดวกในการรับจ่ายเงินแล้ว ยังเพิ่มความปลอดภัยกับเงินที่นำติดตัวมาจากเมืองไทยด้วย
โดยทั่วไป บัญชีเงินฝากธนาคารมี 2 ชนิดคือ
1. Checking Account คือ บัญชีเงินฝากที่รองรับการจ่ายเช็คเงินสดหรือการรูดบัตรเดบิต ธนาคารส่วนใหญ่นอกจากจะไม่ให้ดอกเบี้ยเงินฝากในบัญชีนี้แล้ว ยังจะคิดค่าธรรมเนียมการใช้เช็คทุกเดือน เว้นแต่ผู้เปิดบัญชีมีเงินคงเหลือในบัญชีในรอบเดือนนั้น ๆ ไม่น้อยกว่าจำนวนที่กำหนด ซึ่งแต่ละธนาคารจะกำหนดไว้ไม่เท่ากัน จึงขอให้สอบถามกับธนาคารให้ชัดเจนก่อน
ในระหว่างเปิดบัญชี Checking Account เจ้าหน้าที่ของธนาคารจะถามว่าต้องการ Bank Card (Debit Card หรือ Check Card) หรือไม่ ให้ตอบว่าต้องการ Bank Card นี้จะทำหน้าที่เหมือนกับบัตร ATM บวกกับ Debit Card ของบ้านเรา คือ ใช้เบิกเงินสดจากตู้ ATM และใช้แทนเช็คเงินสด โดยทุกครั้งที่รูดบัตรเป็นจำนวนเงินเท่าใด ธนาคารจะหักเงินออกจากบัญชีโดยตรงเป็นจำนวนเงินเท่านั้น
2. Saving Account คือ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สำหรับนักเรียนฯ ซึ่งนำเงินติดตัวมาจำนวนมาก และเป็นเงินเย็นที่ไม่ต้องนำมาหมุนใช้จ่ายรายเดือน ขอแนะนำให้เปิดบัญชี Saving Account เพิ่มอีกบัญชี และนำเงินเย็นมามาฝากในบัญชีนี้ เพราะจะได้ดอกเบี้ย
หมายเหตุ
- ระวังอย่ารูดบัตร Bank Card/Debit Card หรือเขียนเช็คโดยมีเงินในบัญชี Checking Account ไม่พอสำหรับการจ่ายโดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะต้องเสียค่าปรับประมาณ $30 ต่อครั้งแล้ว ประวัติความน่าเชื่อถือทางการเงินของท่านจะด่างพร้อย และจะส่งผลกระทบต่อการจ่ายเงินผ่านบัตรหรือเช็คในอนาคต
- ให้จดรายการเงินเข้าเงินออกทุกครั้งที่นำเงินเข้าหรือใช้เงินออกจากบัญชี Checking Account เพื่อให้มั่นใจว่า ในบัญชี Checking Account มีเงินเหลือเพียงพอสำหรับจ่ายเงินทุกครั้ง